SolarEdge ผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบ
โซล่าร์ ที่ติดตั้ง Power Optimizer มากกว่า 107 ล้านเครื่องทั่วโลก 

ข้อกำหนด Rapid Shutdown (อุปกรณ์หยุดทำงานฉุกเฉิน) ในมาตรฐานใหม่ วสท.

☑️ลดแรงดันไฟฟ้าในบริเวณ Array Boundary ให้ต่ำกว่า 80 โวลต์ ภายใน 30 วินาที

☑️ลดแรงดันไฟฟ้าในสายเคเบิลที่อยู่นอก Array Boundary ให้ไม่เกิน 30 โวลต์ภายใน 30 วินาที

☑️ติดตั้งอุปกรณ์หยุดทำงานฉุกเฉิน (Rapid Shutdown) ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ผนังภายนอกบริเวณหน้าอาคาร เพื่อให้สะดวกและปลอดภัยสำหรับนักดับเพลิง

ทำความรู้จัก Rapid Shutdown (RSD)

ระบบโซล่าร์เซลล์โดยทั่วไปมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดอันตรายจากความผิดปกติทางไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น เกิดอาร์คในฝั่ง DC จนมีความร้อนสะสมในอุปกรณ์ ซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย ที่ทำให้เจ้าของระบบอาจเกิดความกังวลขึ้นได้

ในเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น อัคคีภัย โดยปกติจะมีการตัดไฟจากการไฟฟ้าก่อน ซึ่งไม่สามารถตัดไฟในวงจรโซล่าร์ได้ แรงดันไฟฟ้าในวงจรโซล่าร์ยังทำอันตรายกับพนักงานดับเพลิงได้ถึงชีวิต หากมีการติดตั้ง Rapid Shutdown ในระบบโซล่าร์ จะสามารถลดแรงดันไฟฟ้าในระบบโซล่าร์ นักดับเพลิงจึงเข้าไปทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ชีวิตและทรัพย์สินของคุณจึงปลอดภัย

และที่สำคัญตั้งแต่ 1 ก.ค. 2566 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ประกาศให้โครงการโซล่าร์บนหลังคาทั่วประเทศไทยเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย โดยต้องมี Rapid Shutdown ในระบบ หากไม่ติดตั้ง Rapid Shutdown จะไม่ได้รับใบอนุญาตในการใช้งานระบบโซล่าร์เซลล์

SolarEdge ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะ (MLPE) ที่ยาวนานสุดในตลาด มี Rapid Shutdown ที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง คุณจึงมั่นใจว่าได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านหรือธุรกิจของคุณ

เลือกโซลูชั่นระบบโซล่าร์จาก SolarEdge คุ้มกว่ายังไง?

อันดับ 1 เรื่องความคุ้มค่า มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก พร้อมตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยในการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์บนหลังคาที่เหมาะกับประเทศไทย

☑️มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ด้วยระบบ SafeDC™ ของ SolarEdge ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากระบบไฟฟ้าได้ครบถ้วน ทั้งไฟฟ้าลัดวงจรและอัคคีภัย หมดกังวลเรื่องการใช้งานระบบโซล่าร์เซลล์กับประสบการณ์ของ SolarEdge มากกว่า 16 ปี ใน 135 ประเทศทั่วโลก

☑️ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า ด้วย Power Optimizer แบบติดตั้งรายแผงหรือคู่แผง  สามารถแยกการผลิตไฟฟ้าได้อย่างอิสระและเหนือกว่า String Inverter

☑️ดูแลรักษาง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะ SolarEdge Monitoring Platform แบบ Module Level สามารถเช็กประสิทธิภาพการทำงานและความผิดปกติรายแผงแบบ Real-time ได้ ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา ช่วยจัดการปัญหาและจัดการระบบได้ง่ายและรวดเร็ว

☑️ดูแลหลังการขายโดยทีมเซอร์วิสที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์มากกว่า 7 ปี ในประเทศไทย พร้อมให้คำแนะนำทั้งก่อนและหลังการขาย ตลอดอายุการใช้งานกับ SolarEdge

☑️รับประกันการใช้งานอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นอินเวอร์เตอร์รับประกันนาน 12 ปี ขยายได้สูงสุด 20 ปี และรับประกัน Power Optimizer นานถึง 25 ปี

☑️โซลูชั่นระบบโซล่าร์ที่คิดค้นและพัฒนาเพื่อการใช้งานในประเทศไทย ปรับกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าให้สอดคล้องกับการใช้งานได้ เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือกว่า